วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2558

มะม่วงหิมพานต์


มะม่วงหิมพานต์ 
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Anacardium occidentale L.
ชื่อสามัญ : Cashew nut tree
ชื่ออื่น : กะแตแก (มลายู-นราธิวาส) กายี (ตรัง) ตำหยาว ท้ายล่อ ส้มม่วงชูหน่วย (ภาคใต้) นายอ (มลายู-ยะลา) มะม่วงกาสอ (อุตรดิตถ์) มะม่วงกุลา มะม่วงลังกา มะม่วงสินหน มะม่วงหยอด (ภาคเหนือ) มะม่วงทูนหน่วย ส้มม่วงทูนหน่วย (สุราษฎร์ธานี) มะม่วงยางหุย มะม่วงเล็ดล่อ (ระนอง) มะม่วงไม่รู้หาว มะม่วงหิมพานต์ (ภาคกลาง) มะม่วงสิโห (เชียงใหม่) มะโห (เงี้ยว-แม่ฮ่องสอน) ยาโงย ยาร่วง (ปัตตานี)
ส่วนที่ใช้ : ยางจากผลสด ที่ยังไม่สุก 1 ผล ที่เด็ดออกมาใหม่ๆ, ยางจากต้น เมล็ด
สรรพคุณ :
• ยางจากผลสด ยางจากต้น - เป็นยารักษาหูด
• เมล็ด - ผสมยารับประทาน แก้กลากเกลื้อน และโรคผิวหนัง แก้เนื้อหนังชาในโรคเรื้อน
• ยางจากต้น
- ทำลายตาปลา และกัดทำลายเนื้อที่ด้านเป็นปุ่มโต
- แก้เลือดออกตามไรฟัน
วิธีและปริมาณที่ใช้
• ยางจากผลสด - ที่ยังไม่สุก 1 ผล ที่เด็ดออกมาใหม่ๆ ใช้ยางจากผลทางตรงบริเวณที่เป็นหูด ทาบ่อยๆจนกว่าจะหาย
• ยางจากต้นสด - ทาตรงตาปลา หรือเนื้อที่ด้านเป็นบุ๋มโต ทาบ่อยๆ จนกว่าจะหาย

ดีบัวหลวง

https://www.facebook.com/samunpai.DDherb
สมุนไพรดีดี ขายส่ง สมุนไพรพอกหน้า สมุนไพรแห้ง-บดผง
ดีบัว (บัวหลวง)
สุดยอดบำรุงหัวใจ แก้เส้นเลือดตีบ ลดเบาหวาน ลดความดัน (เหมาะกับผู้สูงวัยมากๆครับ)
***สรรพคุณและวิธีใช้ :ตำรายาไทย:
ใช้ แก้อาการหงุดหงิดนอนไม่หลับ การติดเชื้อในช่องปาก ลดความดันโลหิตช่วยขยายเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ กรณีเส้นเลือดตีบ แก้กระหายน้ำ แก้กระหายหลังอาเจียนเป็นโลหิต แก้น้ำกามเคลื่อนขณะหลับ(ฝันเปียก)
***สรรพคุณของดีบัว
1 - ดีบัวมีสาร Methylcorypalline ซึ่งเป็นตัวช่วยทำให้เส้นเลือดขยาย ใช้เป็นยาขยายหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ แก้เส้นเลือดตีบในหัวใจเนื่องจากมีไขมันไปเกาะที่ผนังหลอดเลือด เพิ่มแรงบีบตัวของหัวใจ และช่วยบำรุงหลอดเลือดหัวใจ โดยใช้ดีบัวแห้ง 1 หยิบมือ นำมาชงกับน้ำร้อน 1 แก้วปกติ แล้วใช้ดื่มในขณะที่ยังอุ่นๆ ก่อนอาหารวันละ 3 ครั้ง หรือจะปั้นเป็นเม็ดขนาด 0.5 กรัม ใช้กินครั้งละ 3-5 เม็ด ก่อนอาหารเช้าและเย็นก็ได้ แถมยังมีสรรพคุณช่วยแก้อาการร้อนในกระหายน้ำ ช่วยแก้ไข้และช่วยบำรุงร่างกายได้อีกด้วย (ดีบัว)
2- ช่วยผ่อนคลายความเครียด อาการหงุดหงิดนอนไม่หลับ ช่วยทำให้นอนหลับสบาย ด้วยการใช้ดีบัวประมาณ 1.5-6 กรัม นำมาต้มเอาน้ำดื่ม (ดีบัว)
3- ใช้ดีบัวประมาณ 1.5-6 กรัม นำมาต้มเอาน้ำดื่ม ก็มีสรรพคุณช่วยลดความดันโลหิตสูงได้เช่นกัน อีกทั้งยังมีสรรพคุณช่วยขยายเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ ในกรณีที่เส้นเลือดตีบ (ดีบัว)
4- ช่วยแก้อาการติดเชื้อในช่องปาก ด้วยการใช้ดีบัวประมาณ 1.5-6 กรัม นำมาต้มเอาน้ำดื่ม (ดีบัว)
5- ช่วยแก้อาการอาเจียนเป็นเลือด (ดีบัว)
6- ใช้ดีบัวนำมาต้มเอาน้ำดื่มก็มีสรรพคุณช่วยแก้กระหายน้ำด้วยเช่นกัน และยังช่วยอาการกระหายหลังอาเจียนเป็นเลือดได้ด้วย (ดีบัว)
7- ช่วยบำรุงถุงน้ำดี (ดีบัว)

วันจันทร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2558

อ้อยแดง


อ้อยแดง เป็นยาขับปัสสาวะ แก้ขัดเบา บำรุงธาตุน้ำ ครับ
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Saccharum officinarum L.
ชื่ออื่น : อ้อย อ้อยขม อ้อยดำ (ภาคกลาง) กะที (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน)
ส่วนที่ใช้ : ทั้งต้น ต้น น้ำอ้อย ผิวของต้นอ้อย มี wax
***สรรพคุณ :
• ทั้งต้น - แก้ปัสสาวะพิการ แก้ขัดเบา แก้ช้ำรั่ว แก้โรคนิ่ว แก้ไอ
• ต้น - แก้อาการขัดเบา แก้ปัสสาวะพิการ แก้ไข้ตัวร้อน แก้พิษตานซาง บำรุงธาตุน้ำ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ แก้เสมหะเหนียว ทำให้ชุ่มชื่นในลำคอ ในอก บำรุงกำลัง บำรุงหัวใจ ขับน้ำเหลือง แก้ช้ำใน รักษาโรคไซนัส
• น้ำอ้อย - รักษาโรคนิ่ว บำรุงหัวใจ ทำให้ชุ่มชื่นในลำคอ แก้เสมหะ แก้หืด ไอ ขับปัสสาวะ บำรุงกำลัง เจริญอาหาร เจริญธาตุ
• ผิวของต้นอ้อย มี wax เอามาทำยา และเครื่องสำอาง
*****วิธีทำและปริมาณที่ใช้ :
ขับปัสสาวะ แก้อาการขัดเบา
ใช้ลำตันทั้งสดและแห้งขออ้อยแดง วันละ 1 กำมือ (สด 70-90 กรัม แห้ง หนัก 30-40 กรัม) หั่นเป็นชิ้นๆ ต้มกับน้ำดื่ม ครั้งละ 1 ถ้วยชา (75 มิลลิลิตร) วันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหารเช้า-เย็น
อ้อยแดงมีฤทธิ์ในทางขับปัสสาวะได้ในหนูขาว กองวิจัยทางการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รายงานว่า อ้อยแดงไม่มีพิษเฉียบพลัน

วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2558

พิลังกาสา


ยังมีชื่อท้องถิ่นอื่นๆ อีกว่า ผักจำ ผักจ้ำแดง (เชียงใหม่, เชียงราย), ตีนจำ (เลย), ลังพิสา (ตราด), ทุรังกาสา (ชมพร), ราม (สงขลา), ปือนา (มลายู-นราธิวาส), พิลังกาสา (ทั่วไป), จิงจ้ำ, จ้ำก้อง, มะจ้ำใหญ่, ตาปลาราม, ตาเป็ด, ทุกังสา, มาตาอาแย เป็นต้น
หมายเหตุ : ในพืชวงศ์เดียวกัน “พิลังกาสา” ยังเป็นชื่อพ้องของพรรณไม้อีกหลายชนิด เช่น พิลังกาสาชนิดที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ardisia elliptica Thunb ซึ่งในชนิดนี้เราจะเรียกว่า “รามใหญ่” (มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์ที่คล้ายคลึงกับพิลังกาสามาก และยังมีสรรพคุณทางยาที่เหมือนกันหลายอย่าง และ พิลังกาสาอีกชนิดที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ardisia colorata Roxb. ชนิดนี้โดยทั่วไปแล้วจะเรียกว่า “มะจ้ำก้อง”
ลักษณะของพิลังกาสา
• ต้นพิลังกาสา เป็นพันธุ์ไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบกระจายพันธุ์อยู่ทั่วไปตั้งแต่หมู่เกาะริวกิวของประเทศญี่ปุ่น และกระจายไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไปจนถึงอินเดียภาคใต้[ โดยจัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดย่อม มีความสูงของต้นประมาณ 2-3 เมตร ลำต้นแตกกิ่งก้านสาขาออกรอบต้น แต่ไม่มากนัก ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด ชอบดินทรายหรือดินเหนียว แต่ไม่ชอบดินแฉะ โดยจะพบพรรณไม้ชนิดนี้ได้ตามป่าราบ และมีประปรายอยู่ทั่วไปบ้างว่าพบได้ตามป่าโปร่ง ป่าดิบเขาทั่วไป ที่ราบสูง
สรรพคุณของพิลังกาสา
1. ผลสุกนำมาตากแห้งบดเป็นผงผสมกับน้ำผึ้ง แล้วปั้นเป็นลูกกลอนกิน หรือใช้ผง
ยา 1 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำครึ่งแก้วดื่มช่วยบำรุงโลหิต (ผล)
2. ช่วยแก้ธาตุพิการ (ผล)
3. ผลใช้เป็นยาแก้ไข้ แก้ไข้ในกองอติสารโรค (ผล)
4. ใบมีรสร้อน สรรพคุณช่วยแก้อาการไอ (ใบ)
5. ใบใช้เป็นยาแก้ลม (ใบ)
6. ช่วยแก้ปอดพิการ (ใบ)
7. ใบและผล มีสรรพคุณช่วยแก้ท้องเสีย (ใบ,ผล)
8. ดอกใช้เป็นยาแก้พยาธิ (ดอก)
9. รากใช้เป็นยาแก้กามโรค หนองใน (ราก)
10. ช่วยแก้โรคระดูของสตรี ด้วยการนำผลสุกมาตากแห้งบดเป็นผงผสมกับน้ำผึ้ง แล้วปั้นเป็นลูกกลอนกิน (ผล)
11. ใบใช้เป็นยารักษาโรคตับพิการ (ใบ)
12. รากใช้เป็นยาพอกปิดแผล ถอนพิษงูกัด แก้พิษงู หรือใช้กากพอกแผล เอาน้ำกิน (ราก)
13. เมล็ดมีสรรพคุณช่วยแก้ลมพิษ (เมล็ด, ผล)
14. ดอกใช้เป็นยาฆ่าเชื้อโรค (ดอก)
15. ต้นใช้เป็นยาฆ่าพยาธิผิวหนัง (ต้น)
16. ต้นใช้เป็นยารักษาโรคผิวหนัง แก้โรคเรื้อน กุฏฐัง (ต้น) ส่วนผลใช้แก้โรคเรื้อน (ผล)

โคกกระออม


สมุนไพรดีดี ยาตำรับโบราณ
โคกกระออม
โคกกระออม ชื่อสามัญ Balloon vine, Heart pea, Heart seed, Smooth leaved Heart Pea
โคกกระออม ชื่อวิทยาศาสตร์ Cardiospermum Halicacabum Linn. จัดอยู่ในวงศ์ SAPINDACEAE
สมุนไพรโคกกระออม ยังมีชื่อท้องถิ่นอื่นๆ อีกว่า ตุ้มต้อก (แพร่), วิวี่ วี่หวี่ (ปราจีนบุรี), โพออม โพธิ์ออม(ปัตตานี), เครือผักไล่น้ำ ลูกลีบเครือ(ภาคเหนือ), กะดอม โคกกระออม (ภาคกลาง), ติ๊นโข่ ไหน (จีน), เจี่ยขู่กวา เต่าตี้หลิง ไต้เถิงขู่เลี่ยน (จีนกลาง), สะไล่น้ำ, สะไล่เดอะ, สะโคน้ำ, สะไคน้ำ, หญ้าแมงวี่, หญ้าแมลงหวี่ เป็นต้น
ลักษณะของโคกกระออม
• ต้นโคกกระออม มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาเขตร้อน มีการแพร่กระจายเป็นวัชพืชไปทั่วโลก ในประเทศไทยสามารถพบได้ทุกภาค โดยจัดเป็นพรรณไม้เลื้อยหรือไม้เถาล้มลุกขนาดกลาง มีอายุราว 1 ปี ลำต้นแตกกิ่งจำนวนมาก มีเถายาวประมาณ 1-3 เมตร มักเลื้อยเกาะพันกันขึ้นไปบนต้นไม้หรือตามกิ่งไม้ หรืออาจเลื้อยไปตามพื้นดิน ลักษณะของเถาเป็นเหลี่ยมมีสันประมาณ 5-6 เหลี่ยม และมีขนปกคุลมเล็กน้อย ผิวของเถาเป็นสีเขียว เถามีขนาดโตเท่ากับก้านไม้ขีดไฟ หรืออาจจะเล็กกว่านั้นก็มี และบริเวณข้อของเถาจะมีมือสำหรับยึดเกาะ ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการใช้เมล็ด มักเกิดขึ้นทั่วไปตามป่าเบญจพรรณ ตามชายป่า หรือตามที่รกร้างว่างเปล่า ริมทาง ตามริมน้ำ หรือบริเวณที่มีร่มเงา จนถึงระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,500 เมตร
สรรพคุณของโคกกระออม
1. ทั้งต้นมีรสขมและเผ็ดเล็กน้อย ใช้เป็นยาเย็น โดยจะออกฤทธิ์ต่อตับและไต สามารถใช้เป็นยาขับพิษร้อนถอนพิษไข้ได้ (ทั้งต้น)
2. ช่วยแก้พิษในร่างกาย (ทั้งต้น)
3. ช่วยทำให้เลือดเย็น (ทั้งต้น)
4. ดอกมีรสขมขื่น ใช้เป็นยาขับโลหิต (ดอก)
5. ใช้เป็นยารักษาโรคโลหิตให้ตก (ดอก)
6. ทั้งต้นใช้ต้มกินต่างน้ำ จะช่วยลดความดันโลหิตได้ (ทั้งต้น)
7. ใช้รักษาโรคดีซ่าน (ทั้งต้น)
8. ช่วยแก้ตาเจ็บ (ใบ)
9. ทั้งต้นช่วยรักษาต้อตา (ทั้งต้น) น้ำคั้นจากรากสดใช้เป็นยาหยอดตาแก้ตาต้อ (ราก) หมอพื้นบ้านจะนำรากสดๆ มาคั้นกับน้ำสะอาดใช้หยอดตาแก้ตาต้อ แก้เจ็บตาได้ผลดี (ราก)
10. เมล็ดมีรสขมขื่น สรรพคุณใช้เป็นยาแก้ไข้ (เมล็ด) , ส่วนเถาใช้เป็นยาแก้ไข้ รักษาไข้จับ บ้างว่าใช้ทั้งต้นเป็นยาแก้ไข้ (ทั้งต้น)
11. ช่วยแก้ไข้เพื่อทุราวสา แก้ปัสสาวะให้บริบูรณ์
12. เมล็ดมีสรรพคุณช่วยขับเหงื่อ (เมล็ด) บ้างว่าใช้โคกกระออมทั้ง 5 นำมาต้มกินต่างน้ำก็ช่วยขับเหงื่อได้เช่นกัน (ทั้งต้น)
13. ใบมีรสขมขื่น ใช้แก้อาการไอ รักษาโรคหืดไอ แก้ไอหืด ส่วนน้ำคั้นจากใบใช้แก้อาการไอ (น้ำคั้นจากใบ)
14. ทั้งต้นใช้ผสมกับตัวยาอื่น ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้หอบหืด (ทั้งต้น) ส่วนน้ำคั้นจากใบสดก็มีสรรพคุณช่วยแก้หอบหืดเช่นกัน (น้ำคั้นจากใบ)
15. รากโคกกระออมมีรสขม มีสรรพคุณทำให้อาเจียน (ราก)
16. รากใช้เป็นยาระบาย (ราก) บ้างว่าใช้ทั้งต้นเป็นยาระบาย (ทั้งต้น)
17. ช่วยรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
18. ทั้งต้นมีสรรพคุณเป็นยาขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะขัด และใช้แก้นิ่ว โดยใช้ทั้งต้นนำมาต้มเป็นยาใช้กินต่างน้ำ (ทั้งต้น) หรือ ใช้แก้ปัสสาวะขัดเบา ให้ใช้โคกกระออม และใบสะระแหน่ อย่างละประมาณ 10 กรัม นำมาต้มกับน้ำ(ต้นแห้ง) ส่วนอีกข้อมูลระบุว่าใบเป็นยาขับปัสสาวะ (ใบ)
19. ใช้ทั้งต้นนำมาต้มให้คนแก่ที่อาการต่อมลูกหมากโตใช้กินต่างน้ำเป็นยา จะช่วยลดอาการของต่อมลูกหมากโตได้ (ทั้งต้น)
20. ดอกมีสรรพคุณช่วยขับประจำเดือนของสตรี (ดอก)น้ำคั้นจากใบใช้เป็นยาขับระดูของสตรี (น้ำคั้นจากใบ)
21. ผลมีรสขมขื่น มีสรรพคุณช่วยบำรุงน้ำดี (ผล)
22. ช่วยดับพิษทั้งปวง (ผล)
23. ช่วยดับพิษแผลไฟไหม้ แผลไฟลวก (ผล)
24. ใบสดใช้เป็นยาใส่แผลชั้นยอด โดยใช้น้ำต้มข้นๆ นำมาใช้ล้างแผล (ใบ)
25. ทั้งต้นใช้แก้แมลงสัตว์กัดต่อย แก้พิษงู (ทั้งต้น) รากใช้ตำคั้นเอาแต่น้ำมากินเป็นยาแก้พิษงู ส่วนกากที่เหลือใช้เป็นยาพอกแก้พิษงู พิษงูเห่า และพิษจากแมลง (ราก)
26. ทั้งต้นใช้เป็นยารักษาโรคผิวหนัง ฝี กลาก เกลื้อน (ทั้งต้น)
27. ใช้แก้ฝีบวม ฝีหนอง ด้วยการใช้ต้นสดนำมาตำผสมกับเกลือเล็กน้อย แล้วนำมาพอกบริเวณที่เป็นฝี (ต้นสด) ส่วนใบสดก็สามารถนำมาตำพอกรักษาฝีได้เช่นกัน (ใบ)
28. แก้รัดฐาณฝีและถอดไส้ฝี (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
29. ช่วยแก้อาการปวดบวมฟกช้ำ ด้วยการใช้ต้นโคกกระออมแห้งประมาณ 10-18 กรัม นำมาบดเป็นผงผสมกับเหล้าใช้รับประทาน (ต้นแห้ง)
30. ใช้รักษาอาการอักเสบบวมตามต่างกาย โดยนำมาใบสดมาตำกับเกลือแล้วใช้ทาบริเวณที่มีอาการอักเสบบวม (ใบ)
31. ทั้งต้นมีสรรพคุณช่วยรักษาโรคไขข้ออักเสบ (ทั้งต้น)
32. ช่วยรักษาโรครูมาตอยด์ ด้วยการใช้ใบสดนำมาตำคั้นเอาแต่น้ำไปเคี่ยวกับน้ำมันงา ใช้เป็นยาทาเช้าและเย็นติดต่อกันประมาณ 7 วัน อาการของโรครูมาตอยด์จะค่อยๆ ดีขึ้น (ใบ)
33. แพทย์แผนจีนจะใช้ทั้งต้นนำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาขับน้ำนม ทำให้เกิดน้ำนม และยังมีสรรพคุณช่วยบำรุงน้ำนมของสตรี (ทั้งต้น)
วิธีใช้สมุนไพรโคกกระออม
• วิธีใช้ ต้นแห้ง ให้ใช้ประมาณ 10-18 กรัม นำมาต้มกับน้ำประทาน
• วิธีใช้หากเป็นต้นสด ให้ใช้ประมาณ 35-70 กรัม นำมาตำคั้นเอาแต่น้ำรับประทาน หรือใช้เป็นยาพอกภายนอก
***** ข้อห้าม สตรีมีครรภ์ห้ามรับประทานสมุนไพรชนิดนี้
ประโยชน์ของโคกกระออม
1. ในชนบทจะเรียกต้นโคกกระออมว่า “หญ้าแมงวี่” หากเด็กมีอาการตาแฉะหรือตาแดง ก็มักจะมีแมลงวี่มาตอมมา คนชนบทก็จะใช้เถาของต้นโคกกระออมรวมทั้งใบสดๆ ด้วย มาพันไว้รอบศีรษะ จะทำให้แมลงหวี่กลัวไม่กล้ามาตอมอีก (เถาและใบ)
2. ใช้เป็นยาสระผมกำจัดรังแค ด้วยการนำเถาโคกกระออมมาทุบคั้นแช่ในน้ำพอข้นๆ แล้วนำมาใช้ชโลมศีรษะและทิ้งไว้สักครู่ แล้วค่อยออก จะช่วยกำจัดรังแคได้ดีมาก
3. มีการนำยอดอ่อนโคกกระออมมาใช้รับประทานเป็นผักสดหรือเผาไฟ โดยยอดอ่อนจะมีรสขมเล็กน้อย ช่วยบำรุงสุขภาพ เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความแก่ และช่วยในการต่อต้านมะเร็งได้อีกต่างหาก

สาวผิวสวยด้วย มะเขือเทศ


สมุนไพรดีดี ยาตำรับโบราณ
 มะเขือเทศ
สูตร-สาวผิวสวยด้วย มะเขือเทศ (Lycopersicon esculentum Mill.)
ในมะเขือเทศ จะมีสาร Curotenoid และมีวิตามินหลายชนิด น้ำจากผลมะเขือเทศสุก จะมีสาร licopersioin ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อรา และแบคทีเรีย และน้ำมะเขือเทศสดนำมาพอกหน้าจะรักษาสิวสมานผิวหน้าให้เต่งตึง
สรรพคุณ สมานผิว ลดรอยเหี่ยวย่น จุดด่างดำ
ส่วนผสม
**มะเขือเทศ 1 ผล
**รำข้าวหรือข้าวโอ๊ต 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
นำมะเขือเทศไปปั่นหรือบดให้ละเอียด กรองเอาแต่น้ำผสมรำข้าวหรือข้าวโอ๊ตคนให้เข้ากัน
วิธีใช้
ล้างหน้าให้สะอาด เช็ดหน้าให้แห้งพอกครีมมะเขือเทศทิ้งไว้นานเท่าที่มีเวลาแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ในมะเขือเทศมีวิตามินเอ มาก ซึ่งเป็น วิตามินที่ละลายได้ดีในน้ำมัน การใช้รำข้าวหรือข้าวโอ๊ตเป็นส่วนผสม เพื่อให้น้ำมันในรำข้าวหรือข้าวโอ๊ตเป็นตัวพาวิตามินเอเข้าสู่เซลผิวหน้าได้ดีกว่า การฝานมะเขือเทศมาแปะหน้าเพียงอย่างเดียว สูตรนี้ใช้ได้ทั้งคนผิวแห้งและผิวมัน

สาวผิวสวยด้วย"มะขามป้อม"


สมุนไพรดีดี ขายส่ง สมุนไพรพอกหน้า สมุนไพรแห้ง-บดผง
มะขามป้อม
สูตร-สาวผิวสวยด้วย"มะขามป้อม"
บำรุงผิวพรรณ ผิวสวย สดใส สุขภาพผิวดี ด้วยพืชสมุนไพรสดจากธรรมชาติ 100%***ส่วนผสมของครีมสมุนไพรสด พอกหน้า-พอกตัว
• เนื้อมะขามป้อมโขลกละเอียด แล้วนำมาคั้นเอาเฉพาะน้ำ 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำผิ้งแท้ 2 ช้อนโต๊ะ
• นมสด 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำครีมสมุนไพรสด พอกหน้า-พอกตัว
• นำผล "มะขามป้อม" มาสัก 10 ผล ล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมาโขลกให้ละเอียด คั้นเอาน้ำจาก "เนื้อมะขามป้อม" นี้มาให้ได้ 2 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำผึ้งแท้ผสมกับน้ำ "มะขามป้อม" คนให้เข้ากันดีแล้วใส่นมสดลงไปผสม คนให้เข้าด้วยกันจนเป็นเนื้อเดียวกัน เตรียมไว้สำหรับพอกหน้า วิธีใช้ ใช้เวลาในการพอกหน้าประมาณ 15-20 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำอุ่นตามด้วยน้ำเย็น ซับผิวหน้าให้แห้งอีกครั้งหนึ่ง เพียงเท่านี้เอง และควรพอกหน้าสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง สูตรนี้ใช้ได้กับทุกสภาพผิว